แนะนำ! แนวเพลงสำหรับสถานที่จัดงานแต่ง หลากหลายสไตล์

เพลง ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญในสถานที่จัดงานแต่งอย่างยิ่ง เพราะเป็นเครื่องมือในการช่วยเสริมสร้างบรรยากาศให้กับงานแต่งได้เป็นอย่างดี ดังนั้น การเลือกเพลง หรือเพลย์ลิสต์งานแต่งที่เหมาะสม จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ และภาพจำของงานแต่งให้ติดอยู่ในความทรงจำของแขก และบ่าวสาวไปอีกนาน

อย่างไรก็ตาม การเลือกแนวเพลงมาใช้ในงานแต่งใช่ว่าจะเลือกเพลงอะไรมาใส่ก็ได้ เพราะบางเพลงฟังแล้วอาจรู้สึกเพราะหู แต่ความหมายที่แท้จริงของเนื้อเพลงไม่เข้ากับ Mood and Tone ของงานแต่ง ดังนั้น บทความในวันนี้ See Sa Rin จึงถือโอกาสมาแนะนำวิธีเลือกแนวเพลงให้เข้ากับบรรยากาศงานแต่ง รับรองว่าถ้านำทริคเหล่านี้ไปใช้ จะช่วยให้งานแต่งของคุณประทับจิตประทับใจแขกที่มาร่วมงานทุกท่านอย่างแน่นอน

ทริคเล็ก ๆ เลือกเพลงงานแต่งให้ประทับใจ และน่าจดจำ

เพลงที่ถูกใจอาจไม่ใช่เพลงที่ถูกกาลเทศะเสมอไป เพราะฉะนั้นก่อนจะเลือกเพลงอะไรก็ได้ใส่เพลย์ลิสต์งานแต่ง ขอแนะนำว่าให้ลองทำตามทริคเล็ก ๆ น้อย ๆ ด้านล่างนี้ก่อน เพื่อเปิดโอกาสให้งานแต่งของคุณเต็มไปด้วยบรรยากาศน่าประทับใจ และแสนโรแมนติกมากขึ้น

  • ฟังเพลงก่อนเลือก

ทริคแรกที่แนะนำ คือ การให้คู่รักบ่าวสาวได้ฟังเพลงก่อนนำมาจัดเป็นเพลย์ลิสต์ เพราะบางเพลงที่ถูกใจอาจไม่ใช่เพลงที่ถูกกาลเทศะ ดังนั้น จึงขอแนะนำว่าให้เลือกฟังเพลงหลาย ๆ เพลง และดูความหมายของเนื้อเพลงก่อนก็ยังไม่สาย

  • เปิดใจกับเพลงใหม่

เพลงสำหรับเปิดในสถานที่จัดแต่งงานไม่จำเป็นต้องเป็นเพลงที่ติดกระแสเสมอไป ควรลองเปิดใจให้กับเพลงใหม่ ๆ หรือเพลงนอกกระแสบ้าง แล้วจะพบว่าในโลกนี้ยังมีเพลงรักเพราะ ๆ ซึ้ง ๆ อีกหลายเพลงรอให้เรานำมาจัดเป็นเพลย์ลิสต์เพลงงานแต่งอยู่

  • ลิสต์ชื่อเพลงที่ไม่แมส

ลองจัดรายชื่อเพลงที่ไม่คุ้นหูเข้าไปอยู่ในเพลย์ลิสต์กันดูบ้าง นอกจากจะทำให้งานแต่งเป็นที่น่าจดจำด้วยเพลย์ลิสต์แปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร บางเพลงก็ยังมีความหมายที่ลึกซึ้งเข้ากับทุกช่วงเวลาที่น่าประทับใจในงานอีกด้วย เมื่อย้อนกลับมาคิดถึงทีไรก็ต้องเป็นปลื้มทุกที

เพลงนี้แหละใช่เลย ! วิธีจัดเพลย์ลิสต์งานแต่งเข้ากับทุกโมเมนต์

เมื่อเลือกเพลงใส่เพลย์ลิสต์ได้แล้ว ก็อย่าลืมจัดลำดับเพลงที่ควรเปิดก่อนหรือหลังเอาไว้ด้วย เพราะบางช่วงของพิธีแต่งงานก็อาจจะไม่เข้ากับเพลงที่คุณเรียงลำดับไว้ก็เป็นได้

  • ความทางการของงาน

บ่าวสาวบางคู่ก็จัดงานแต่งกันด้วยพิธีที่ทางการสุด ๆ เต็มไปด้วยแขกคนสำคัญ และญาติผู้ใหญ่ เพราะฉะนั้นจะเลือกเพลงที่จังหวะป๊อปเกินไปอาจไม่เข้ากับกาลเทศะ โดยอาจเลือกเป็นเพลงอะคูสติก-ป๊อป (Acoustic-Pop) โฟล์คซอง (Folksong) หรืออะคูสติก (Acoustic) จะช่วยให้บรรยากาศในงานดูเป็นทางการขึ้นมาทันที แต่ก็ยังผ่อนคลายอารมณ์ไม่ตึงเครียดจนเกินไป

  • สถานที่จัดงานแต่ง

แน่นอนว่าสถานที่จัดแต่งงานก็ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ควรพิจารณา เมื่อต้องเลือกเพลงประกอบงานแต่ง เพราะเพลงที่เหมาะสมจะช่วยส่งเสริมให้สถานที่จัดแต่งงานนั้นเต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความโรแมนติกมากขึ้น อีกทั้งยังทำให้แขกที่มาร่วมงานรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งกับงานอีกด้วย

  • ช่วงเวลาที่จะเปิดเพลง

ช่วงเปิดตัวบ่าวสาวจะเล่นเพลงป๊อป-แดนซ์ ก็คงไม่เหมาะ เพราะฉะนั้นจะเลือกเพลงอะไรเข้าเพลย์ลิสต์งานแต่ง ก็อย่าลืมพิจารณาช่วงเวลาที่จะใช้เพลงนั้น ๆ ด้วย เพื่อส่งเสริมให้บรรยากาศงานแต่งกลมกลืนกันในทุกส่วน ไม่มีส่วนใดแปลกแยกจากกัน

แนวเพลงสำหรับสถานที่จัดงานแต่ง ฟังง่ายไม่ระคายหู

เชื่อว่าคู่รักหลายคู่มักจะเลือกเพลงสำหรับพิธีเปิดในสถานที่จัดงานแต่งด้วยเพลงแมส ๆ ตามประสบการณ์การฟังเพลงของตัวเอง แน่นอนว่าย่อมเป็นเพลงที่ความหมายดี และดนตรีเพราะ ไม่อย่างนั้นจะเป็นเพลงยอดฮิตที่แมสติดตลาดได้อย่างไร แต่อย่าลืมว่าในโลกนี้มีแนวดนตรีอีกมากให้เลือกสรร ซึ่งในเพลงแต่ละแนวย่อมมีเพลงที่พูดถึงความรักอยู่ด้วยอย่างแน่นอน ซึ่งทาง See Sa Rin ได้คัดแนวเพลงเพราะ ๆ เหมาะสำหรับเปิดในงานแต่งมาฝากกัน ดังนี้

  • แนวเพลงโฟล์คซอง

แนวเพลงโฟล์ค หรือ อะคูสติก นับว่าเป็นธีมเพลงที่ถูกใช้ในการจัดงานแต่งค่อนข้างมาก เนื่องจากเป็นเพลงที่ฟังสบายหู มีจังหวะดนตรีที่ไพเราะ เรียบง่าย ส่วนเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรักก็โรแมนติก เปรียบเปรยความรักได้ซึ้งสุด ๆ อย่างเช่นเพลง (They Long to Be) Close to You โดย Carpenters ที่พูดถึงคนรักได้อย่างนิ่มนวล และละเมียดละไม แถมยังมีท่อนร้องติดหู ไม่ว่าจะผ่านมากี่ยุคเพลงนี้ก็ถูกนำมาใช้ในงานแต่งอยู่เสมอ

  • แนวเพลงป๊อป

แนวเพลงที่ถูกเลือกใช้ในงานแต่งมากที่สุดคงหนีไม่พ้นเพลงป๊อป เพราะเป็นแนวที่ Easy Listening และทำเพลงรักออกมาให้คู่บ่าวสาวเลือกกันแทบจะล้นตลาด แถมยังพูดถึงความรักในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นความรักของกลุ่ม LGBTQIA+ อย่างเช่นเพลง She Keeps Me Warm โดย Mary Lambert ที่มีจังหวะเปียโนในช่วงเริ่มเพลงเพราะ ๆ ตามมาด้วยเสียงร้องหวาน ๆ ของนักร้องสาว พร้อมกับความหมายที่ชวนให้รู้สึกเขินอาย เหมาะกับการเป็นเพลงบอกรักสุด ๆ

  • แนวเพลงอะคูสติก-ป๊อป

อีกหนึ่งแนวเพลงสำหรับทำเป็นเพลย์ลิสต์ในงานแต่งที่ยอดนิยมไม่แพ้กัน คือแนวเพลงอะคูสติก-ป๊อป ซึ่งเป็นการผสมผสานทางดนตรีได้อย่างลงตัว ด้วยจังหวะป๊อป ที่ทำให้เพลงมีความสนุก และมีชีวิตชีวามากขึ้น ตามมาด้วยเสียงเมโลดี้แบบอะคูสติกที่สอดแทรกเข้ามา ช่วยทำให้เพลงฟังง่ายมากขึ้น อย่างเช่นเพลง I Choose You โดย Sara Bareilles ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเพลงที่ความหมายดี และเป็นแนว Easy Listening บวกกับน้ำเสียงของนักร้องสาวแล้ว ทำให้งานแต่งครั้งนี้เป็นโมเมนต์ที่น่าประทับใจที่สุด

  • แนวเพลงแจ๊ส

หลายคนอาจมองว่าเพลงแจ๊สเป็นแนวที่ไม่ค่อยเหมาะแก่การนำมาเปิดในสถานที่จัดแต่งงาน ซึ่งในความเป็นจริงแล้วก็ยังมีเพลงแจ๊สจังหวะช้าที่สามารถใช้เป็นเพลงบอกรักได้เช่นกัน อย่างเช่น เพลง Love at First Sight โดย Michael Bublé ถือเป็นอีกหนึ่งเพลงยอดนิยมที่ถูกจัดอยู่ในเพลย์ลิสต์งานแต่ง นำโด่งมาด้วยเสียงทุ้มต่ำมีเสน่ห์ของนักร้องหนุ่ม บวกกับดนตรีแนวแจ๊สที่เล่นคลอไปอย่างเชื่องช้า มาพร้อมกับเนื้อเพลงสั้น ๆ ที่เต็มไปด้วยความหมาย ถือเป็นจังหวะจ้องตาของคู่รักที่โรแมนติกอย่างยิ่ง

  • แนวเพลงป๊อป-โซล

แนวเพลงป๊อป-โซล แม้จะเป็นธีมดนตรีที่ไม่ค่อยมีใครนำมาเปิดในงานแต่ง แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเพลงที่เหมาะกับช่วงเวลาตัดเค้กของคู่บ่าวสาวเลย อย่างเช่นเพลง All of Me โดย John Legend ที่แต่งขึ้นจากชีวิตรักของนักร้องเอง ทำให้เนื้อเพลงออกมาสมบูรณ์แบบทุกถ้อยคำ เป็นเพลงที่กลั่นออกมาจากใจจริง ผสมผสานกับเสียงเปียโนแล้วยิ่งบ่งบอกความรู้สึกต่อคู่รักได้อย่างลึกซึ้งกินใจ เพลงนี้จึงเป็นอีกเพลงที่ขึ้นแท่นเพลงงานแต่งยอดนิยม

ดูเหมือนการเลือกเพลงประกอบงานแต่งจะเป็นเรื่องเล็ก ๆ ทว่ากลับต้องใส่ใจอย่างมาก เพราะอย่างที่กล่าวไปในตอนต้นว่าเพลงเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีให้กับงานแต่งของคุณได้ ดังนั้น อย่ามองข้าม และใส่ใจกับส่วนนี้ให้เท่ากับส่วนอื่น ๆ ด้วย เพราะงานแต่งถือเป็นโอกาสพิเศษที่ไม่ได้จัดขึ้นบ่อย ๆ

ทั้งนี้ สำหรับใครที่กำลังมองหาสถานที่จัดงานแต่งแบบครบวงจร หลากหลายรูปแบบให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นงานแต่งในเรือนกระจก งานแต่งแบบเรือนไทย งานแต่งในสวน หรือแม้แต่งานแต่งในโบสถ์แบบตะวันตก ขอแนะนำบริการจาก See Sa Rin ที่ช่วยให้งานแต่งของคุณสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น หากสนใจสามารถติดต่อเราได้ที่

Tel: 094-666-9441

Website: seesarinstudio.com

Facebook Page: See Sa Rin

Email: [email protected]