การแต่งงาน ถือเป็นวันสำคัญของคู่รัก ที่ทุกคนต้องการให้ทุกอย่างออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด เพื่อสร้างความประทับใจทั้งต่อตัวเอง และแขกที่มาร่วมงาน อย่างไรก็ตาม การจัดงานแต่งงานมีรายละเอียด และขั้นตอนการเตรียมงานมากมาย ทำให้คู่บ่าวสาวที่ไม่ได้จ้าง Wedding Planner ต้องวางแผนงานอย่างรอบคอบ และเป็นระบบ
ดังนั้น เพื่อช่วยให้การจัดงานแต่งเป็นไปตามที่ฝันไว้ See Sa Rin ขอแจก คู่มือเตรียมจัดงานแต่งงานครบทุกขั้นตอน ตั้งแต่เริ่มต้นวางแผนไปจนถึงวันสำคัญ ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย
14 ขั้นตอน เตรียมงานแต่งงาน เข้าใจง่าย สำหรับคู่รักมือใหม่
การเตรียมงานแต่ง ควรวางแผนล่วงหน้าอย่างน้อย 8 เดือน เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่เร่งรีบจนเกินไป และสามารถจัดงานให้ออกมาตรงตามความฝันของคู่บ่าวสาว เนื่องจาก งานแต่งมีรายละเอียดมากมาย โดยเฉพาะบริการให้เช่าสถานที่จัดงานแต่ง และบริการต่าง ๆ ที่ต้องดำเนินการล่วงหน้า ทำให้การตรวจสอบข้อมูลอย่างรอบคอบจึงเป็นสิ่งสำคัญ
ซึ่งไม่เพียงแค่ช่วยควบคุมงบประมาณ แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงจากการโดนโกง ฉะนั้นเพื่อให้การวางแผนเป็นเรื่องง่ายขึ้น เราได้สรุป 14 ขั้นตอนสำคัญในการเตรียมงานแต่ง ที่เข้าใจง่ายและนำไปใช้ได้จริง ดังนี้
-
กำหนดฤกษ์วันแต่งงาน
ก่อนเริ่มวางแผนจัดงานแต่ง สิ่งสำคัญอันดับแรก คือ การปรึกษากับผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่าย เพราะงานแต่งไม่ใช่เพียงเรื่องของคนสองคน แต่เป็นการรวมกันของสองครอบครัว ดังนั้น การพูดคุยและขอคำแนะนำจากผู้ใหญ่ จึงเป็นขั้นตอนที่ไม่ควรมองข้าม
นอกจากนี้ ควรร่วมกันกำหนดฤกษ์แต่งงาน ซึ่งอาจเลือกเป็นฤกษ์ดีตามความเชื่อ หรือตามความสะดวกของครอบครัว เพื่อให้สามารถดำเนินการขั้นตอนต่อไปได้อย่างราบรื่น และความเป็นสิริมงคล
-
กำหนดงบประมาณ
หลังจากกำหนดฤกษ์วันแต่งงานได้แล้ว ก่อนจะเริ่มวางแผนเตรียมงานในส่วนต่าง ๆ ควรเริ่มต้นด้วยการกำหนดงบประมาณที่ชัดเจน เพราะงบประมาณ จะส่งผลโดยตรงต่อรูปแบบ และขนาดของงาน เช่น หากจัดงานเล็กที่มีแขกเพียง 5 – 10 คน ย่อมใช้งบประมาณน้อยกว่างานแต่งขนาดใหญ่ที่มีแขกกว่า 100 คน
ทั้งนี้ การวางงบล่วงหน้า ช่วยให้สามารถควบคุมค่าใช้จ่าย ในแต่ละขั้นตอนได้ง่ายขึ้น และยังช่วยป้องกันไม่ให้งบประมาณบานปลาย ระหว่างเตรียมงานอีกด้วย
-
เลือกรูปแบบงานพิธีการ
สำหรับพิธีการงานแต่งในปัจจุบัน มีให้เลือกหลายรูปแบบ เช่น พิธีแต่งงานแบบไทย พิธีแต่งงานแบบคริสต์ พิธีแต่งงานแบบจีน หรือพิธีแต่งงานแบบตะวันตก โดยสามารถเลือกตามความเหมาะของเชื้อชาติ และศาสนาของคู่บ่าวสาว
-
เลือกธีมงานแต่ง
ธีมงานแต่ง เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยกำหนดทิศทาง และบรรยากาศของงานได้อย่างลงตัว ทั้งยังส่งผลต่อการเลือกสถานที่ การตกแต่ง โทนสี และการแต่งกายของคู่บ่าวสาว รวมถึงแขกที่มาร่วมงาน ซึ่งธีมสามารถเลือกให้สอดคล้องกับรูปแบบของพิธีการ ไม่ว่าจะเป็น งานแต่งแบบไทยดั้งเดิม งานแต่งแบบตะวันตก หรือแม้แต่ธีมเฉพาะที่สะท้อนตัวตนของคู่รัก
-
คำนวณแขกที่มาร่วมงาน
เมื่อเตรียมความพร้อมเบื้องต้นเรียบร้อย ขั้นตอนถัดไป คือ การจัดทำรายชื่อแขกของทั้งฝ่ายเจ้าบ่าวและเจ้าสาว โดยเริ่มจากการกำหนดจำนวนแขกที่ต้องการเชิญให้ชัดเจน และแบ่งสัดส่วนให้เหมาะสมระหว่างทั้งสองฝ่าย ควรเรียงลำดับความสำคัญของแขก ตั้งแต่ญาติผู้ใหญ่ ผู้ที่เคารพนับถือ ไปจนถึงเพื่อนสนิท และคนใกล้ชิด
-
ติดต่อสถานที่จัดงานแต่ง
สำหรับการเลือกสถานที่จัดงานแต่ง ควรนำข้อ 2-5 มาพิจารณาให้ครบทุกองค์ประกอบ เช่น งบประมาณ รูปแบบพิธีการ ธีมงานแต่ง และจำนวนแขกที่มาเข้าร่วม เพื่อให้การเลือกสถานที่ตรงกับความต้องการ
โดยในขั้นตอนนี้ ควรดำเนินการโดยเร็วที่สุด เนื่องจาก สถานที่จัดงานแต่งส่วนใหญ่ จะถูกจองล่วงหน้าเป็นระยะเวลานาน ซึ่งการตัดสินใจเลือกสถานที่ในช่วงเวลาที่เหมาะสม จะช่วยให้ได้สถานที่ที่ตอบโจทย์ตามฤกษ์ที่วางไว้
หากคู่บ่าวสาวท่านใด กำลังมองหาสถานที่จัดงานแต่งงาน ที่พร้อมรองรับการจัดงานทุกรูปแบบ ขอแนะนำ See Sa Rin ซึ่งมีสถานที่ให้บริการหลากหลายรูปแบบ ได้แก่ เรือนไทย โบสถ์จำลอง เรือนกระจก และสวนสำหรับจัดงาน เพื่อให้คุณได้เลือกสถานที่ที่ตรงกับความต้องการ
-
จัดการเรื่องอาหารและเครื่องดื่ม
หลังจากเลือกบริการให้เช่าสถานที่จัดงานแต่งเรียบร้อยแล้ว ควรจัดเตรียมอาหาร และเครื่องดื่มให้เหมาะสมกับประเภทของแขกในงาน หากแขกส่วนใหญ่เป็นผู้ใหญ่ หรือผู้สูงอายุ ควรเลือกการจัดเลี้ยงแบบโต๊ะจีน เพื่อความสะดวกสบาย แต่หากแขกส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเพื่อนสนิท อาจเลือกเป็นบุฟเฟต์ หรือค็อกเทล เพื่อให้บรรยากาศเป็นกันเองมากขึ้น
-
เตรียมชุดแต่งงาน และแหวนแต่งงาน
การเลือกชุดแต่งงานสามารถทำได้ 2 รูปแบบ คือ การตัดชุดใหม่ หรือการเช่าชุดจากร้านต่าง ๆ ซึ่งทางที่ดีควรไปลองชุดด้วยตัวเอง เพื่อให้แน่ใจว่าเหมาะสม และพอดีกับรูปร่างของคุณ นอกจากนี้ ยังสามารถเตรียมแผนการลดน้ำหนัก หากต้องการให้ชุดพอดีกับตัวมากยิ่งขึ้น สำหรับการเลือกแหวนแต่งงาน ก็สามารถเลือกตามงบประมาณที่กำหนดได้เลย
-
จัดหาช่างแต่งหน้า-ทำผม
ช่างแต่งหน้า และทำผมแต่ละคนมีความถนัดเฉพาะทางที่แตกต่างกันไป ดังนั้น ทางที่ดีควรส่องผลงานการแต่งหน้าจากช่างต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับงานแต่ง เพื่อให้มั่นใจว่าการแต่งหน้าของคุณ จะออกมาดูเป็นธรรมชาติ และเสริมความมั่นใจให้คุณในวันสำคัญ
-
เลือกช่างถ่ายภาพ
การเลือกช่างภาพควรมองหาช่างภาพ ที่เหมาะกับรูปภาพที่คุณต้องการ โดยเลือกจากผลงานที่ชัดเจน เช่น ช่างภาพสายงาน Portraiture หรือช่างภาพสายงาน Event ทั้งนี้ จำนวนช่างภาพควรขึ้นอยู่กับขนาดของงาน เพื่อให้สามารถเก็บภาพบรรยากาศในมุมต่าง ๆ ได้ครบถ้วน
-
เลือกนักดนตรีและพิธีกรในงานแต่ง
การเลือกนักดนตรี สามารถทำได้ตามแนวเพลงที่ชอบ ไม่ว่าจะเป็น การบรรเลงเพลงแบบมีเนื้อร้อง ดนตรีบรรเลงเพียงอย่างเดียว หรือการแสดงดนตรีสด เพื่อสร้างบรรยากาศให้กับงานแต่ง ส่วนพิธีกรก็สามารถเลือกจ้างได้ตามระดับความเป็นทางการของงาน หากงานมีบรรยากาศสบาย ๆ และไม่เป็นทางการมาก อาจขอให้เพื่อนที่มีความสามารถช่วยดำเนินรายการแทนได้
-
เลือกการ์ดแต่งงาน
หลังจากการเตรียมงานแต่งเริ่มเข้าที่แล้ว ขั้นตอนต่อไป คือ การจัดเตรียมองค์ประกอบสำคัญของงาน โดยเริ่มจากการเลือกการ์ดแต่งงาน และแจกจ่ายให้แขกที่ได้รับเชิญ ทั้งนี้ หากไม่สามารถส่งการ์ดเชิญได้ทันเวลา หรือหากแขกอยู่ไกล สามารถใช้ช่องทางออนไลน์ในการส่งคำเชิญแทนได้
-
จัดทำของชำร่วย และของรับไหว้
ในปัจจุบันของชำร่วย และของรับไหว้ มีให้เลือกหลากหลายช่วงราคา โดยคู่บ่าวสาวสามารถปรึกษากับทางร้าน เพื่อออกแบบดีไซน์ให้ตรงกับความต้องการได้มากเท่าไหร่ หากต้องการผลิตในจำนวนมาก ควรจัดเตรียมตั้งแต่ช่วงแรกของการวางแผนงาน เพื่อให้มีเวลาเพียงพอสำหรับการผลิตและจัดส่ง
-
เตรียมอุปกรณ์พิธีการ
ขั้นตอนสุดท้ายในการเตรียมงานแต่ง คือ การตรวจสอบความพร้อมของสถานที่ รวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้ในพิธีการ ของตกแต่ง และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่จำเป็นสำหรับการจัดงาน ควรมีการเช็กความเรียบร้อยล่วงหน้า และทำการทดสอบระบบ เช่น แสง สี เสียง และลำดับพิธีการ ก่อนวันจริงอย่างน้อย 1 ครั้ง เพื่อให้ทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่นในวันสำคัญ
เคล็ดลับ ออกแบบการ์ดแต่งงาน ให้สะท้อนตัวตนบ่าวสาวมากที่สุด
หนึ่งในองค์ประกอบสำคัญ ที่ขาดไม่ได้สำหรับงานแต่งงาน คือ การ์ดแต่งงาน ซึ่งเป็นเสมือนตัวแทนของเจ้าบ่าว และเจ้าสาวในการเชิญแขกให้มาร่วมเป็นสักขีพยานในวันสำคัญ หากคู่รักคู่ไหนกำลังมองหาไอเดียการออกแบบการ์ด ที่สามารถสะท้อนตัวตนได้อย่างลงตัว เรามีเคล็ดลับน่าสนใจมาฝาก ดังนี้
-
ค้นหาดีไซน์ที่ชอบ
เริ่มต้นกันที่ค้นหาดีไซน์ที่ชอบ เนื่องจาก การ์ดแต่งงาน มีหลากหลายรูปแบบให้เลือก ไม่ว่าจะเป็น สไตล์คลาสสิก แบบแผ่นพับ หรือแบบ Pop-Up ซึ่งแต่ละสไตล์ล้วนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คู่บ่าวสาวควรเลือกดีไซน์ที่เหมาะสมกับธีมงานแต่ง และสะท้อนถึงตัวตนของทั้งสองคน
-
เพิ่มจุดเด่นในการออกแบบ
เมื่อเลือกดีไซน์ที่ต้องการแล้ว ขั้นตอนถัดไป คือ การเพิ่มรายละเอียดพิเศษ ที่สะท้อนตัวตนของคู่บ่าวสาวให้โดดเด่นยิ่งขึ้น เช่น การใช้อักษรย่อของชื่อคู่บ่าวสาว แล้วเปลี่ยนเป็นฟอนต์ที่สวยงามหรูหรา หรือการใส่ภาพถ่ายของทั้งคู่ลงในการ์ดแต่งงาน
-
ตกแต่งด้วยการ DIY
สุดท้ายเพื่อเพิ่มความโดดเด่น และความพิเศษให้กับการ์ดแต่งงานแต่ละใบ คู่บ่าวสาวอาจเติมแต่งรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น การเขียนข้อความสั้น ๆ ด้วยลายมือของตนเอง เพื่อส่งต่อความรู้สึกอบอุ่น และความจริงใจให้กับแขกผู้ได้รับเชิญ ซึ่งวิธีนี้ไม่เพียงทำให้การ์ดดูมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่ยังสร้างความประทับใจให้กับผู้รับอีกด้วย
แชร์ไอเดีย เลือกของรับไหว้งานแต่ง ตอบโจทย์ทุกสไตล์งานแต่ง
ของรับไหว้งานแต่งงาน คือ สิ่งของที่มอบให้แก่ญาติผู้ใหญ่ ที่มาทำพิธีรับไหว้กับคู่แต่งงานเท่านั้น ซึ่งเป็นคนละส่วนกับของชำร่วย ดังนั้น การเลือกของรับไหว้ ควรพิจารณาจากความเหมาะสมของผู้รับ ซึ่งมี 3 ไอเดียที่น่าสนใจ ดังนี้
-
สิ่งของใช้งานได้จริง
ไอเดียแรกในการเลือกของรับไหว้ คือ การเลือก สิ่งของที่สามารถนำไปใช้งานได้จริง ทั้งนี้ ควรคำนึงถึงความเหมาะสมกับกาลเทศะ และรสนิยมของผู้รับ โดยไอเทมยอดนิยม ได้แก่ เทียนหอม หมอนอิง แก้วน้ำ หรือผ้าขนหนู การเลือกของรับไหว้ที่มีประโยชน์ จะช่วยให้ผู้รับรู้สึกประทับใจ และจดจำความพิเศษของงานแต่งงานได้ยาวนาน
-
ความหมายดี
ไอเดียที่สองในการเลือกของรับไหว้ คือ การเลือกสิ่งของที่มีความหมายดีเช่น ข้าวมงคล ชาสมุนไพร และกระเช้าเพื่อสุขภาพ โดยสิ่งของเหล่านี้ไม่เพียงแต่มีความหมายดี แต่ยังเหมาะสมกับการแสดงความปรารถนา และห่วงใยต่อสุขภาพของผู้รับ
-
สิ่งของสะสม
ไอเดียที่สามในการเลือกของรับไหว้ คือ การเลือกสิ่งของสะสมที่มีมูลค่าสูง โดยสามารถเลือกได้ทั้งชุดถ้วยเบญจรงค์ หรือผ้าไหมทอ ซึ่งเป็นสิ่งของที่ระลึก และสามารถเก็บรักษาได้ยาวนาน
อ่านเพิ่มเติม แชร์ 8 ไอเดียธีมสีงานแต่ง ปี 2025 ถูกใจทั้งบ่าวสาวและแขก
ของชำร่วยงานแต่งงาน เลือกแบบไหนดี ? แถมมีความหมายลึกซึ้ง
ของชำร่วย คือ สิ่งของที่จัดทำขึ้นเพื่อมอบให้แก่ผู้เข้าร่วมงานแต่ง เพื่อแสดงคำขอบคุณ ที่สละเวลาเข้าร่วมเฉลิมฉลองในวันสำคัญ โดยส่วนใหญ่การเลือกของชำร่วยมักเน้นที่ความหมายลึกซึ้ง และการใช้งานได้จริง เพื่อให้ผู้รับสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้ โดยเรามีสิ่งของที่แนะนำ 3 อย่าง ได้แก่
-
พวงกุญแจ
พวงกุญแจ ถือเป็นของชำร่วยยอดฮิตสำหรับงานแต่ง เนื่องจาก เปรียบเสมือนตัวแทนของความรัก ที่สามารถพกพาไปได้ทุกที่ หากต้องการให้สื่อถึงงานแต่งงานได้ชัดเจน อาจเลือกทำกุญแจอะคริลิกไดคัท โดยออกแบบกราฟิกของคู่บ่าวสาวในรูปแบบตัวการ์ตูน เพื่อให้ผู้รับสามารถใช้ได้จริง และเพิ่มความน่ารักให้กับของชำร่วย
-
สมุดโน้ต
สมุดโน้ต เป็นอีกหนึ่งของชำร่วยที่มีความหมายลึกซึ้ง เปรียบเสมือนการบันทึกความทรงจำ หรือเหตุการณ์สำคัญในชีวิต สำหรับการออกแบบปกสมุดโน้ต สามารถใช้ชื่อของคู่รักหรือข้อความพิเศษ เพื่อทำให้สมุดนี้เป็นของที่ระลึกที่เต็มไปด้วยความหมาย และความประทับใจ
-
ช้อนส้อม
ช้อนส้อม ถือเป็นของชำร่วยยอดนิยมสำหรับคู่บ่าวสาว เนื่องจาก มีความหมายที่แสดงถึงสัญลักษณ์ของความเป็นมงคลในชีวิตคู่ เพราะช้อน และส้อมต้องใช้งานร่วมกัน นอกจากนี้ ช้อนส้อมยังเป็นของที่สามารถนำกลับไปใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน ทำให้เป็นของที่มีทั้งความหมาย และประโยชน์ในเวลาเดียวกัน
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ คู่มือเตรียมจัดงานแต่งงานครบทุกขั้นตอน แบบ Step by Step หวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่คู่บ่าวสาวที่กำลังจะแต่งงาน รวมถึงไอเดียการเลือกการ์ดแต่งงาน ของรับไหว้ และของชำร่วย เพื่อให้เลือกได้อย่างเหมาะสม
สุดท้ายนี้ สำหรับคู่รักที่กำลังวางแผนจัดงานแต่งงาน อย่าลืมพิจารณา See Sa Rin ที่ให้บริการเช่าสถานที่จัดงานแต่งในหลากหลายรูปแบบ เพื่อให้วันสำคัญของคุณเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ ตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณ และคู่รักได้อย่างลงตัว สนใจสามารถติดต่อได้ที่
Tel: 094-666-9441
Website: seesarinstudio.com
Facebook Page: See Sa Rin
Email: [email protected]