ไอเดีย ตัดเค้กแต่งงานในโบสถ์ ให้อบอุ่น เรียบง่ายไม่เหมือนใคร

แต่งงานในโบสถ์

หนึ่งในสิ่งสำคัญที่ช่วยเติมเต็มบรรยากาศภายในงานแต่งงานให้ดูอบอุ่น และอบอวลไปด้วยมวลแห่งความรัก คงหนีไม่พ้นเค้กแต่งงาน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ในชีวิตคู่ และอวยพรให้ชีวิตของบ่าวสาวมีแต่ความสุข ไม่ว่าจะเกิดปัญหาอะไรขึ้น ก็ขอให้จับมือเคียงข้างกันไปจนสุดทาง

แต่ปัจจุบันพิธีตัดเค้กงานแต่งในโบสถ์ ก็อาจดูซ้ำจำเจ และน่าเบื่อจนเกินไป คนรุ่นใหม่จึงได้มีการครีเอทเค้กแต่งงานขึ้นใหม่ ด้วยการนำขนมรูปทรงต่าง ๆ มาทำเป็นทรงโดมตามวิธีการจัดจานแบบฝรั่งเศส หรืออาจใช้สิ่งของที่มีความหมายดี สื่อถึงชีวิตคู่มาใช้แทนพิธีตัดเค้ก เพื่อสร้างสีสันใหม่ ๆ ให้กับงานแต่ง และช่วยลดปัญหา Food Waste ซึ่งเป็นปัญหาที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อนได้เป็นอย่างดี

เพราะฉะนั้น บทความในวันนี้ See Sa Rin จะพาคู่ใหม่ปลามันที่กำลังวางแผนจัดงานแต่งงานในโบสถ์ มาดูไอเดียตัดเค้กแต่งงานที่ไม่ซ้ำใคร แต่ยังคงความเรียบง่าย และไม่หวือหวา ทั้งยังเสริมสิริมงคลให้กับการเริ่มต้นชีวิตคู่ของบ่าวสาว 

ไขข้อสงสัย ! ทำไมพิธีแต่งงานในโบสถ์ ต้องมีเค้กแต่งงาน

แต่งงานในโบสถ์

เชื่อว่าบ่าวสาวที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาวางแผนจัดงานแต่งในโบสถ์ ให้ออกมาสวยงามดั่งใจคิด คงจะมีข้อสงสัยอยู่ไม่น้อยว่าทำไมในงานแต่งงานต้องมีเค้กแต่งงาน ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่กลางสถานที่จัดงานอยู่เสมอ แถมยังเป็นพิธีที่ขาดไปไม่ได้เลยในงานแต่งงาน ซึ่งจุดเริ่มต้นของพิธีตัดเค้ก เริ่มขึ้นเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 12-15 ในสมัยโรมัน โดยชาวโรมันนิยมนำข้าวสาลี มาอบกับเกลือให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ

จากนั้นจึงนำขนมปัง ที่อบได้มาเรียงกันเป็นชั้น ๆ เพื่อให้เจ้าบ่าวรับประทานในส่วนหัว หรือส่วนด้านบนของเค้ก จากนั้นก็หักแบ่งออกมา แล้วนำไปโปรยลงบนศีรษะของเจ้าสาว เพื่ออวยพรให้ชีวิตคู่ของบ่าวสาวมีแต่ความสุข มั่นคงยืนยาว และอวยพรให้เจ้าสาวแข็งแรง มีลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง นอกเหนือจากการอวยพรให้ชีวิตคู่มีแต่ความราบรื่นแล้ว

อีกนัยหนึ่งเค้กแต่งงาน ถือเป็นสัญลักษณ์ของการเปิดบริสุทธิ์ของเจ้าสาว เนื่องจาก ชาวโรมันมีความเชื่อว่าการหักขนมปัง เปรียบเสมือนการที่เจ้าสาวสละพรหมจรรย์ พร้อมกับประกาศว่าหญิงสาวจะออกเรือน และมีพันธะทางครอบครัวเป็นทางการ หลังจากนั้นเค้กแต่งงานก็ได้มีการดัดแปลง ผสมผสานให้เข้ากับช่วงเวลา และวัฒนธรรมในแต่ละท้องที่อยู่เรื่อยมา จนกลายเป็นเค้กแต่งงานที่มีขนาดใหญ่ พร้อมกับตกแต่งด้วยครีม น้ำตาลแต่งหน้าเค้ก รวมถึงผลไม้ต่าง ๆ คล้ายคลึงกับลักษณะของเค้กในปัจจุบัน 

ทั้งนี้ หากใครที่สงสัยว่าทำไมเค้กแต่งงานจะต้องมีสีขาว ก็อาจบอกได้ว่าในอดีตการทำขนมเค้กเป็นสีต่าง ๆ นานานั้นทำได้ยาก เนื่องจาก ส่วนผสมส่วนใหญ่เป็นสีขาว ที่สำคัญ ความเชื่อของคนในอดีตล้วนมองว่าสีขาว สื่อถึงความรักอันบริสุทธิ์ และความรักที่มั่นคงยืนยาว เหมาะกับการอำนวยอวยชัยให้ความรักของบ่าวสาวประสบความสำเร็จ

แจกไอเดีย ตัดเค้กแต่งงานในโบสถ์ ให้เก๋ไก๋ โดนใจแขกทุกคน

เมื่อพูดถึงงานแต่งในโบสถ์ เชื่อว่าหลายคนจะต้องนึกถึงเค้กสีขาว บีบครีมเป็นทรงระย้าสไตล์วินเทจ และจำนวนชั้นของเค้กจะต้องมีมากกว่า 3 ชั้นขึ้นไป แต่สำหรับบ่าวสาวคู่ไหนที่ต้องการครีเอตเค้กให้เข้ากับธีมงานแต่งสไตล์มินิมอล หรือเลือกนำขนมอื่น ๆ มาประยุกต์ให้เข้ากับงานแต่งงานในโบสถ์ พร้อมแต่งตัวคู่กับ Drees Code ได้อย่างลงตัว ทาง See Sa Rin ก็ได้รวบรวมไอเดียเค้กแต่งงานมาให้ทุกคนแล้ว ดังนี้

  • เค้กสไตล์มินิมอล

หากพูดถึงเค้กที่เหมาะกับการจัดวางในโบสถ์ คงหนีไม่พ้นเค้กสไตล์มินิมอล ซึ่งเป็นรูปแบบเค้กที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน  เนื่องจาก เค้กสไตล์นี้จะตกแต่งภายนอกแบบเรียบง่าย แต่ดูโดดเด่น ด้วยการใช้เนื้อครีมโทนสีขาว หรือสีเหลืองพาสเทล แล้วบีบครีมตกแต่งเล็กน้อย พร้อมกับตกแต่งด้วยผลไม้ วาดรูปตัวการ์ตูนที่ชอบ หรือดอกไม้กินได้ เพียงเท่านี้ก็จะได้เค้กที่เหมาะกับงานแต่งในโบสถ์แล้ว

  • คัพเค้ก

สำหรับใครที่จัดงานแต่งเล็ก ๆ และต้องการแจกจ่ายเค้กให้กับแขกที่มาร่วมงานอย่างทั่วถึง แนะนำให้เปลี่ยนจากเค้กปอนด์ มาเป็นคัพเค้กแสนอร่อยที่มีรูปทรง และดีไซน์เข้ากับธีมงานที่กำหนดไว้ จากนั้นนำคัพเค้กมาวางเรียงบนจานเสิร์ฟ 3 ชั้นให้เรียบร้อย เพื่อให้ภาพรวมยังคล้ายคลึงกับเค้กแต่งงานทั่วไป แต่เต็มไปด้วยความสร้างสรรค์ และไม่เป็นพิธีรีตองมากจนเกินไป

  • โดนัท

หากบ่าวสาวคู่ไหนที่หาภาพงานแต่งในโบสถ์ผ่าน Pinterest เป็นประจำ ต้องเคยเห็นไอเดียเค้กโดนัทอย่างแน่นอน โดยสามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยการนำโดนัทมาจัดเรียงกันเป็นทรงโดม แล้วราดด้วยคาราเมล คล้ายกับวิธีการจัดจานขนมครอก็องบุช (Croquembouche) ของฝรั่งเศส เพียงเท่านี้ก็จะได้เค้กแต่งงานที่สวยงามอลังการ ผสมผสานระหว่างสไตล์วินเทจ และมินิมอลได้อย่างลงตัว

  • มาการอง

มาต่อกันที่มาการอง ขนมยอดฮิตจากฝรั่งเศสที่เด็กทานได้ ผู้ใหญ่ทานดี ถือว่าเป็นขนมอีกหนึ่งชนิดที่เหมาะกับการนำมาตกแต่งเป็นเค้กแต่งงานอย่างยิ่ง โดยเลือกมาการองที่มีสีเดียวกับธีมสีของงาน จากนั้นจัดเรียกเป็นชั้นโดมให้สวยงาม คล้ายคลึงกับเค้กแต่งงานที่มีความใหญ่โต และอลังกาล ชวนดึงดูดสายตาแขกที่มาร่วมงานอยู่เสมอ

  • รดน้ำต้นไม้

สำหรับบ่าวสาวที่ไม่ชอบทานขนมหวาน แต่ต้องการให้มีพิธีตัดเค้กเป็นส่วนหนึ่งของงาน แนะนำให้เลือกต้นไม้มงคล อย่าง ต้นวาเลนไทน์ ต้นส้ม ต้นมะลิ และต้นกุหลาบแดง มารดน้ำร่วมกัน เพื่ออวยพรให้ชีวิตคู่ของบ่าวสาวเติบโตอย่างแข็งแรง และสง่างามเหมือนกับความรักที่มีให้กันตั้งแต่ครั้งยังเป็นต้นอ่อน

  • เทเม็ดทราย

อีกหนึ่งพิธีที่นิยมนำมาใช้ในงานแต่ง แทนการตัดเค้ก คือ พิธีเทเม็ดทราย โดยอาจเทใส่นาฬิกาทราย หรือขวดโหล เพื่อแสดงถึงความรักระหว่างคู่บ่าวสาวที่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน และเป็นการยึดมั่นคำสัญญาว่าจะอยู่เคียงข้างกันไม่ว่าจะสุข หรือในยามที่ทุกข์ใจ 

ซึ่งทรายที่ถูกเทรวมกันนั้น เปรียบดั่งความรักของบ่าวสาวที่หลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ทั้งยังสื่อว่าทั้งคู่จะใช้ทุกวินาทีต่อจากนี้ร่วมกัน ไปจนถึงวันสุดท้ายของชีวิต เรียกได้ว่าเป็นพิธีที่เหมาะกับการแต่งงานในโบสถ์ สไตล์มินิมอล ที่มีธีมแต่งตัวแบบเรียบง่าย และดูไม่หวือหวาอย่างยิ่ง

  • จุดเทียนร่วมกัน

ปิดท้ายกันด้วยพิธีสุดชิคที่มีความเก๋ ไม่แพ้กับการตัดเค้ก ก็คือพิธีจุดเทียนร่วมกันระหว่างบ่าวสาว โดยอาจจุดเทียนลอยน้ำ หรือจุดเทียนท่ามกลางพุ่มดอกไม้ เพื่อแสดงให้สักขีพยานทุกคนได้เห็นว่า บ่าวสาวจะเป็นแสงสว่างให้กันและกันอยู่เสมอ ไม่ว่าจะมีอุปสรรคใด ๆ เข้ามาก็จะจับมือ และฟันฝ่าไปด้วยกัน

ก็จบกันไปแล้ว สำหรับไอเดียตัดเค้กงานแต่งในโบสถ์ ตัวช่วยเสริมบรรยากาศภายในงานให้ดูอบอุ่น พร้อมโอบอุ้มความรักของคู่รักข้าวใหม่ปลามันได้อย่างลงตัว เพราะเค้กแต่งงาน เปรียบเสมือนตัวแทนแห่งความรัก ทั้งยังสื่อถึงการเริ่มต้นชีวิตครอบครัวของคู่บ่าวสาว ที่จะต้องใช้ชีวิตร่วมกันให้ตลอดรอดฝั่ง

สุดท้ายนี้ หากคุณกำลังมองหาสถานที่แต่งงานในโบสถ์ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของบ่าวสาวครบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็น การถ่าย Pre Wedding จัดพิธีมงคลสมรสในช่วงเช้า และงาน Private Party ในช่วงเย็น ทาง See Sa Rin ของเราพร้อมเนรมิตงานแต่งของคุณให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อเราได้ที่

Tel: 094-666-9441

Website: seesarinstudio.com

Facebook Page: See Sa Rin

Email: [email protected]